อาการชาตามนิ้วมือ สัญญาณของการเกิดโรค
ใครที่เคยมีอาการ นิ้วมือชา อย่าละเลยอาการเหล่านี้ เพราะอาการที่เป็นหากไม่รีบรักษา หรือหาสาเหตุในการเป็นอาจส่งผลทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆตามมาได้ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูสาเหตุถึงอาการนิ้วชา ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร มาดูกันเลย
วันนี้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมีคำตอบ
1. เกิดจาก “กระดูกสันหลังส่วนคอ” หรือ โรครากประสาทคอ (Cervical radiculopathy) หมายถึง พยาธิสภาพที่เกิดขึ้นกับรากประสาท จากการถูกกดเบียดหรือการอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการด้านที่มีพยาธิสภาพ เช่น ปวดตามรากประสาท ชาแขน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
อาการปวดที่เกิดจากการระคายเคืองหรือความผิดปกติของรากประสาทส่วนคอ มีลักษณะปวดคอร้าวไปตามสะบัก ไหล่ ต้นแขน ปลายแขน และมือ หรือนิ้ว เส้นประสาทไขสันหลัง ส่วนคอคู่ที่ 6-7- 8 ตามแนวผิวหนังที่เลี้ยงด้วยรากประสาทเส้นนั้นๆ
2. เกิดจากกลุ่มอาการ TOS (Thoracic outlet syndrome) หรือกลุ่มอาการทีโอเอส เกิดจากการกดทับของเส้นโลหิตและเส้นประสาทบริเวณระหว่างต้นคอกับรักแร้ไปจนถึงด้านหน้าของไหล่และหน้าอก
TOS เป็นกลุ่มอาการที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด โดยอาการจะแสดงให้เห็นเมื่อหลอดโลหิตหรือเส้นประสาทถูกกดทับหรือบีบรัด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ การมีกระดูกซี่โครงบริเวณคองอกเกินมาแต่กำเนิด หรือมีประวัติกระดูกไหปลาร้าหักจนทำให้ช่องว่างระหว่างหลอดโลหิตกับเส้นประสาทแคบลง รวมถึงอาจมีเนื้อเยื่อบริเวณคอที่เจริญเติบโตผิดปกติ
3. มีเนื้องอกบริเวณ “กระดูกไหปลาร้า” (Brachial plexus) ทำให้ไปกดทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการชาบริเวณมือได้
4. โรค Cubital Tunnel Syndrome โรคที่เกิดจากการกดทับของเส้นประสาท Ulnar ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่พาดผ่านบริเวณข้อศอกไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและรับความรู้สึกถึงบริเวณฝ่ามือ พอเส้นประสาทถูกกดทับ ก็อาจจะมีอาการปวดศอกร้าวไปถึงปลายนิ้วนางและนิ้วก้อย บางรายอาจมีอาการชา หรือในรายที่เป็นมากมาเวลานาน อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมาได้
5. กลุ่มอาการปวด ชา บริเวณข้อศอก นิ้วนางนิ้วก้อย (Carpal tunnel syndrome): CTS หรือประสาทมือชา เป็นภาวะที่เส้นประสาทมีเดียนซึ่งเป็นเส้นประสาทหลักของมือถูกบีบอัดหรือกดทับภายในข้อมือ เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างมือ หรือการใช้งานมืออย่างไม่เหมาะสม ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บ ชา และเป็นเหน็บบริเวณมือกับแขน ส่วนใหญ่อาการจะค่อยเป็นค่อยไป ผู้ป่วยมักต้องรักษาด้วยการใส่เฝือก หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางประเภทที่ทำให้เส้นประสาทมือเสียหาย และอาจต้องรับการผ่าตัดหากมีอาการรุนแรง
6. โรค Cubit tunnel syndrome มันเป็นอาการของเส้นประสาทที่ถูกบีบอัดบนข้อมือ ลดประสิทธิภาพการทำงานของข้อมือและนิ้วก้อย ทำให้รู้สึกชาเล็กน้อย ทำให้รู้สึกประสิทธิภาพถดถอยหรือลดลง
7. โรคปลายประสาทอักเสบ/ปลายประสาทเสื่อม (Peripheral neuritis) คือโรคที่มีการทำลายของเส้นประสาทบริเวณมือ แขน และขา โดยจะมีอาการชา ปวดแสบปวดร้อน เจ็บเหมือนโดนอะไรทิ่ม ที่บริเวณมือหรือเท้า สูญเสียการทรงตัว และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
8. การกดทับเส้นประสาทแบบ pronator teres syndrome เป็นการกดทับเส้น ประสาทอัลน่า บริเวณมือ (Guyon canal syndrome) ทำให้เกิดอาการนิ้วหัวแม่ นิ้วชี้ นิ้วกลางเกิดอาการชา
ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr.com