1 ไร่หายจน เกษตรผสมผสานแบบพอเพียง

0

1 ไร่หายจน เกษตรผสมผสานแบบพอเพียง

สำหรับที่ดิน 1 ไร่บางคนอาจดูว่าไม่มากมายนักสักเท่าไหร่ แต่หากมีการศึกษาดีมีการจัดระเบียบกระบวนการทางความคิด วางแผนอย่างรอบคอบ เราก็จะสามารถจัดการกับพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้สร้างความสุขให้กับครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน ด้วยการทำเกษตรแบบผสมผสาน

พื้นที่ 1 ไร่ จะมีการแบ่งการใช้สอยออกเป็น 2 ส่วน

คือส่วนสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย และส่วนสำหรับปลูกพืชผลทางการเกษตร โดยจากการศึกษาของคุณวีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ (วิสาหกิจชุมชนเพชรพิมาย) จะแนะนำให้แบ่งพื้นที่ 1 งานสำหรับสร้างบ้าน และบ่อเก็บน้ำ

และเหลือพื้นที่ 3 งาน สำหรับการเพาะปลูก เน้นการปลูกพืช 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะยาว และระยะยาว

จัดสรรพื้นที่

เน้นแบบพอเพียง

– พืชระยะสั้น

เป็นพืชที่ใช้ระยะเวลาการปลูกสั้นๆ เน้นเก็บไว้ทานในครอบครัว และหากมีจำนวนมากเกินความต้องการ ก็สามารถนำมาขาย เพื่อเป็นรายจ่ายในชีวิตประจำวัน แต่เนื่องจากเรามีพื้นที่น้อย จึงต้องวางแผนการปลูก เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม ราคาดี ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า

1. เห็ดนางฟ้า

เป็นพืชที่ใช้ต้นทุนไม่สูง และได้ผลผลิตรวดเร็ว เพาะได้เกือบทุกฤดูยกเว้นในช่วงฤดูร้อน เพราะเห็ดชอบอากาศเย็นชื้น ถ้าปลูกไว้ในสวนรอบบริเวณบ้าน อาจนำภาชนะที่เก็บความชื้นได้ เช่น โอ่งมาเป็นภาชนะในการเพาะก็ได้ ตั้งไว้บริเวณที่ร่มรื่น หมั่นพรมน้ำ เช้า กลางวัน เย็น จนดอกเห็ดออกมาพร้อมเก็บเกี่ยว ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 7 – 15 วัน ก็นำไปขายได้แล้ว

2. ผักสลัด

เป็นผักที่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ แต่จะปลูกได้ดีในดินร่วน และเป็นพืชที่ชอบแดดจัด ควรให้น้ำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น การเก็บผักกาดหอมจะสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 40-50 วัน หลังเมล็ดงอก

3. ผักคื่นฉ่าย

คื่นฉ่ายสามารถปลูกได้หลายแบบ ถ้าพื้นที่บริเวณรอบบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มากสามารถปลูกในกระถางก็ได้ เพียงหยอดเมล็ดลงกระถาง ให้น้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง เช้าเย็น และรอหลังจากเมล็ดงอกประมาณ 40 – 50 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้

4. ถั่วงอก

ถั่วงอก เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ย เพียงให้น้ำอย่างเดียว ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเพาะเพียง 4 วัน เท่านั้นก็สามารถเก็บมาขายได้่ อีกทั้งยังสามารถปลูกในพื้นที่ขนาดเล็กได้อีกด้วย

– พืชระยะกลาง

เป็นไม้ผล และผลไม้ระยะกลาง ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการปลูก อาจเก็บผลผลิตได้ปีละ 1-2 ครั้ง หรือตามฤดูกาล เช่น มะนาว มะพร้าว มะละกอ กล้วย มะม่วง เป็นต้น โดยรายได้ส่วนนี้จะเก็บไว้สำหรับชำระหนี้ เป็นเงินออม หรือเป็นทุนในการซื้อเครื่องทุนแรงต่างๆ เช่น ระบบน้ำ หรือเครื่องตัดหญ้า เป็นต้น และด้วยข้อจำกัดของเนื้อที่ เราจึงต้องเน้นทำให้ผลผลิตออกในช่วงที่มีราคาแพง เช่น การปลูกมะนาวให้ออกลูกในช่วงหน้าแล้ง เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น เป็นต้น (อ่าน เทคนิคการปลูกมะนาว ในบ่อซีเมนต์ ควบคุมง่าย รายได้ดี)

ระยะปลูกกล้วย

กล้วยเป็นพืชที่มีใบยาว หากปลูกในระยะใกล้กันมาก อาจทำให้ใบเกยกัน หรือซ้อนกัน ทำให้ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ และดูแลลำบาก การกำหนดระยะปลูกจึงควรคำนึงถึงเรื่องแสงแดด ความอุดมสมบูรณ์ของดิน และความต้องการของผู้ปลูกว่าต้องการปลูกกล้วยเพื่อเก็บเกี่ยวกี่ครั้ง หากต้องการเก็บเกี่ยวเพียงครั้งเดียวก็อาจปลูกถี่ได้ แต่ถ้าต้องการเก็บเกี่ยวหลายๆ ครั้ง ต้องปลูกให้ห่างกัน เพื่อมีพื้นที่สำหรับการแตกหน่อ

การปลูกกล้วย

ขุดหลุมให้มีขนาดความ กว้าง ๕๐ เซนติเมตร ลึก ๕๐ เซนติเมตร นำดินที่ขุดได้กองตากไว้ ๕ – ๗ วัน หลังจากนั้นเอาดินชั้นบนที่ตากไว้ลงไปก้นหลุม ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว ให้สูงขึ้นมาประมาณ ๒๐ เซนติเมตร คลุกเคล้าปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักกับดินชั้นบนที่ใส่ลงไป แล้วจึงเอาหน่อกล้วยที่เตรียมไว้ วางที่ตรงกลางหลุม เอาดินล่างกลบ รดน้ำ และกดดินให้แน่น ยอดของหน่อควรสูงกว่าระดับดินประมาณ ๑๐ เซนติเมตร ควรหันรอยแผลของหน่อให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพราะเมื่อโตเต็มที่และติดผล ผลจะเกิดในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับรอยแผล และอยู่ในทิศทางเดียวกัน เพื่อสะดวกในการทำงาน แต่หากเป็นต้นที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จะไม่มีทิศทางของรอยแผล ในการวางต้นจึงจำเป็นต้องมีทิศทาง

– พืชระยะยาว

เป็นกลุ่มไม้เศรษฐกิจ ที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะสามารถเก็บเกี่ยว หรือใช้ประโยชน์ได้ เช่น สักทอง ยางนา ไม้เต็ง ไม้แดง หรือไม้ประดู่ เป็นต้น โดยต้นไม้เหล่านี้เราจะเน้นการปลูกตามแนวเขตแดน หรือปลูกเป็นรั้ว เน้นปลูกช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งแนวชายแดนของพื้นที่ 1 ไร้ จะมีความยาวมากถึง 160 เมตร หากเราปลูกต้นไม้ในระยะ 2 เมตร/ต้น ก็จะได้ไม้เศรษฐกิจ 80 ต้น ในช่วงระหว่างที่ไม้เศรษฐกิจเหล่านี้กำลังเติบโต พื้นที่ระหว่างต้น ก็สามารถปลูกมะละกอ พันธ์ดีแซมระหว่างกลางได้ เช่น พันธ์แขกดำ แขกนวล พันธ์ต้นเตี้ย เพชรพิมาย เป็นต้น

ไม้แดง

จัดเป็นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ และมีการนำมาใช้งานกันอย่างกว้างขวาง ไม้แดงมีความทนทานสูงมาก ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทำให้สามารถนำไปใช้งานกลางแจ้งได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมนำไม้แดงไปใช้ในการก่อสร้าง เป็นโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน ทำเป็นพื้นบ้านไม้แดง เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องมือทางเกษตร และทำเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ในช่วงปีแรกรายได้ต่อเดือนอาจจะเป็หลักพันบาท แต่ในปีต่อๆไป เมื่อต้นไม้เริ่มโตขึ้น ออกดอก ออกผลมากขึ้น เราก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราควรต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย ไม่ใช้จ่ายเกินตัว

ข้อดีของการปลูกพืชในพื้นที่น้อย

1. สามารถดูและ และควบคุมได้ทั่วถึง

2. ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานเยอะ สามารถทำเองได้ภายในครอบครัว

3. เนื่องจากมีเนื้อที่จำกัด จึงต้องปลูกพืชแบบผสมผสาน มีความเสี่ยงน้อย

4. เริ่มต้นแบบเล็กๆ เมื่อได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีประสบการณ์มากขึ้น ก็สามารถขยายเพิ่มเติมได้ง่าย

ข้อมูลจาก : wisdomking.or.th , คุณวีรยุทธ ศรีเลอจันทร์

เรียบเรียงโดย : Postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here