“โรคคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น” เช็กตัวเองกับคนใกล้ตัว อาจเป็นโดยไม่รู้ตัว
มีใครรู้จัก โรค “Imposter Syndrome” หรือโรคคิดว่าตัวไม่เก่งและไร้ค่าบ้าง ซึ่งการวิจัยบอกมาว่า คนส่วนใหญ่ที่มีอาการเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่ทํางานเก่งและสามารถทำงานได้ดี แต่ถ้าว่าลองย้อนกลับมามองดูโลกที่เป็นความจริง มีคนอีกประเภทที่เป็นเหรียญสองด้านเป็นอีกด้านหนึ่งของ Imposter ซึ่งก็คือ “โรคคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น” นั่นเอง
อาการของพวกเขาเหล่านี้จะทำให้คิดว่าตัวเองนั้นเก่งกว่าและเหนือกว่าคนอื่น ทำให้คนพวกนี้ตกอยู่ในอาการของ “Superiority Complex” อยู่ก็เป็นได้ วันนี้เราจะอยากมาบอกว่าโรคนี้คืออะไร สามารถเกิดขึ้นกับคนรอบตัวเราหรือไม่ไปทำความรู้จักกัน
หลายคนนั้นอาจจะเคยเจอคนประเภทที่คิดว่าตัวเองนั้นเก่งและดีกว่าคนอื่นแต่จริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้เก่งกว่าก็เป็นไปได้แต่ด้วยคำพูดที่เขามั่นใจซะเหลือเกิน แต่เมื่อไหร่แล้วที่เจอคนประเภทนี้เราก็จะเบื่อและเอือมมาก ทั้งหมั่นไส้ แต่จริงๆแล้วคนพวกนี้เป็นคนที่น่าสงสาร
ถึงแม้ว่าเวลาที่อยู่ใกล้คนจำพวกนี้มักจะชอบเห็นตัวเองว่าเด่นเกินเด่นกว่าแต่จริงๆแล้วเราควรทำความเข้าใจว่าในโลกของเรามันก็สามารถเปลี่ยนไปตลอดเวลา ยังมีคนหลากหลายรูปแบบที่เราต้องเจออยู่ในทุกๆวัน อย่างคนที่มีอาการอย่างคนข้างต้นในทางหลักจิตวิทยาได้สรุปไว้ว่า พวกเขานั้นอาจจะตกอยู่ในอาการของ uperiority Complex หรือความรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น
อาการของพวกเขาเหล่านั้นจะคิดว่าตัวเองนั้นสำคัญและเก่งเหมือนคนอื่น บางครั้งก็มีอาการที่ไม่สนใจคนอื่น พูดจาอะไรก็ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของคนฟัง มีความคิดว่าตัวเองนั้นต้องดีกว่าคนอื่นมีความสามารถมากกว่า แล้วคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่สำคัญมาก ถ้าไม่มีใครที่ห้ามปรามหรือฉุดรั้งความคิดเหล่านี้ไว้ จะนำไปสู่การป่วยทางจิตเช่น โรคหลงตัวเอง(Narcissism) เป็นต้น
เมื่อเราได้ทำความรู้จักกลับโลกนี้แล้ว หลายๆคนคงเคยเจอคนแบบนี้มาไม่น้อย บางทีก็จะเจอกับเพื่อนร่วมชั้น บางทีก็จะเจอกับเพื่อนร่วมงาน และที่พบเจอได้บ่อยๆเจอเพื่อนร่วมโลกที่เราต้องเจอกันทุกๆวัน
เราจะพาไปดูคนที่มีอาการของ Superiority Complex ให้ได้เห็นชัดๆ อีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น
– มักแสดงอาการตัวเองเด่นของคนรอบข้าง
– มักพูดถึงเรื่องตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไรก็จะกลับมายกยอให้ตัวเองดีที่สุดให้คุณได้ฟังอยู่เสมอ
– ชอบใช้วาจาคำพูดที่รุนแรง ไม่สนใจคนฟัง พูดเพื่อแสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนตรงๆและจริงใจ
– ชอบคิดว่าตัวเองนั้นแตกต่างจากคนอื่น แล้วเมื่อมีคนที่จะเข้าหา มักจะมีเกราะกำบังไว้ไม่ใช่เพราะว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนโลกส่วนตัวสูง แต่คิดว่าตัวคนอื่นนั้นไม่สำคัญหรือไม่เหมาะสมที่จะมาคู่ควรหรือมาเข้าใกล้เขา
– เมื่อไหร่ที่มีคนพูดจาขัดใจ หรือแสดงอาการที่ทำให้ตัวเองนั้นไม่พอใจ คนจำพวกนี้มักใช้คำตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยวาจาและทางกาย
– เมื่อไหร่ที่มีการเปิดให้เห็นถึงความคิดเห็น มักเป็นเรื่องปกติที่คนเรานั้นจะมีความคิดที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับคนที่เป็นโรคนี้ เมื่อไหร่แล้วเราก็ที่เขามีความคิดต่างจากคนอื่น เขามาคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนถูกเสมอ ไม่เคยมองความคิดเห็นของคนอื่น จนบางครั้งคนเหล่านี้ก็ไม่เคยให้เกียรติใครในด้านความคิด
– เมื่อไหร่ก็ตามที่คนจำพวกนี้ทำผิดเขาจะพยายามหาเหตุผลมากบเกลื่อนเพื่อให้ตัวเองนั้นรู้สึกดีขึ้นว่าตัวเองนั้นทำถูกแล้ว
– ในบางครั้งคนจำพวกนี้จะแสดงอาการเหยียบต่อคนอื่นออกมา จะใช้คำพูดเพียงว่าตัวเองนั้นแค่แสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกของตัวเองเฉยๆ อ้างเหตุผลเพียงพอว่าเป็นคนตรงไปตรงมา
– การที่เรามั่นใจในตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งการมั่นใจตัวเองมากเกินไปมันก็เป็นความมั่นใจแบบผิดๆ การมั่นใจที่ทำให้คนอื่นดูต่ำลงและทำให้ตัวเองดูสูงขึ้น ดูฉลาดกว่าคนอื่นนั้น ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นการแสดงออกที่ดีเลยมันแค่เป็นการแสดงอาการแย่ออกมา
เห็นกันแล้วใช่ไหมคะข้อตัวอย่างที่เรายกไปนั้น ทำให้คุณสามารถปวดหัวได้เลย จริงๆแล้วคนจำพวกนี้คุณสามารถพบเจอได้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน แต่ยังไงแล้วเมื่อไหร่ที่คุณเจอคนจำพวกนี้ คุณควรที่จะเข้าใจเขา พยายามเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น อย่าไปต่อปากต่อคำกับเขาโดยใช้คำพูดที่รุนแรงเพราะจะยิ่งทำให้เขาไปกันใหญ่ คุณควรพยายามใส่ใจให้เขาเป็นคนที่ดี จริงๆแล้วคนที่มีอาการพวกนี้อาจจะเป็นเพราะสิ่งแวดล้อม พื้นฐานครอบครัว ล้วนแล้วแต่มีผลต่อเขา
บางคนที่เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะการอบรมเลี้ยงดูจากผู้ปกครองพ่อแม่ ที่ตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ พอเติบโตมานั้นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างมาก หรือบางคนอาจจะเคยเจอเหตุการณ์ที่กระทบต่อจิตใจ อาจจะเคยโดนดูถูก อาจจะเคยโดนคำด่าด้วยคำพูดที่รุนแรงมาตั้งแต่ตอนเด็ก เมื่อโตขึ้นมานั้นทำให้เป็นปมภายในจิตใจ เพราะฉะนั้นเมื่อเขาเติบโตมานั้นเขาก็อยากได้รับการยอมรับจากบุคคลอื่นๆ จึงพยายามทำให้ตัวเองนั้นเป็นที่ยอมรับจนทำให้เกิดพฤติกรรมแบบนี้
หลายๆคนคงพบเจอคนรอบข้างที่ เป็น Superiority Complex ขอให้คุณเข้าใจเขาพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขาแต่ถ้าเมื่อไหร่แล้วที่คุณคิดว่าตัวเองนั้นมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็นอาการแบบนี้คุณควรที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพราะการที่คุณจะทำอาการแย่ๆแบบนี้จะทำให้คนอื่นมองคนในแง่ที่ไม่ดี คุณควรปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่รักของบุคคลรอบข้างเราคุณก็จะมีความสุขเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : sciencedaily , dek-d