6 เครื่องดื่มช่วยสลายรอบเอว หน้าท้องแบนราบ น้ำหนักลงเยอะ
ตัวช่วยที่ดีสำหรับการลดน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกินบนร่างกายของเรานั้น นอกจากการเลือกการออกกำลังกายที่ดีแล้ว การเลือกเครื่องดื่มก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะกำจัดไขมันส่วนเกินได้ดีเหมือนกัน
ซึ่งในวันนี้เราได้มีเครื่องดื่มที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ลดหน้าท้องของคุณได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้วยังเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ดีต่อร่างกายของเราได้ดีอีกด้วย
6 เครื่องดื่มลดไขมันส่วนเกิน
ชามินต์ ด้วยคุณสมบัติของมินต์ จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของคุณย่อยสลายไขมัน แม้แต่อาหารไขมันสูงอย่างเบอร์เกอร์หรือสเต็ก ก็จะถูกย่อยได้อย่างรวดเร็ว แถมยังลดอาการท้องอืดพร้อมเร่งการขับถ่ายได้อีกด้วย
ชาเขียว อย่างที่รู้กันว่าชาเขียวสามารถช่วยลดความอ้วน และควบคุมไขมัน ชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสุดยอดที่ชื่อว่า “คาเทชิน” ช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ เพียงจิบชาเขียวก่อนออกกำลังกาย ก็ช่วยเพิ่มอัตราการ เผาผลาญไขมันในระหว่างนั้นได้แล้ว
นมถั่วเหลือง ถั่วเหลืองมีสารแลคตินที่ช่วยป้องกันการสะสมไขมันของเซลล์ในร่างกาย พร้อมกับช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เพียงดื่มนมถั่วเหลือง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีครับ
น้ำเปล่า มีประโยชนต่อสุขภาพร่างกายของเราที่สุด ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย และช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ทั้งยังช่วยลดอาการบวมน้ำ
น้ำแตงโม มีสารอาหารมากมายรวมถึงไลโคปินที่ช่วยต้านมะเร็ง รวมถึงกรดอะมิโนที่ชื่อว่าอาร์จินีน การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition ระบุว่า ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ แต่คุณก็ต้องออกกำลังกายอย่างจริงจังควบคู่กันไปด้วย
น้ำสับปะรด สับปะรดมีสาร ที่เรียกว่า “โบรมีเลน” ซึ่งช่วย ย่อยโปรตีน ทำให้การย่อยอาหารง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดอาการท้องอืด นอกจากนี้การใส่น้ำมันที่สกัดจากเมล็ด แฟลกซ์ผสมลงในน้ำสับปะรดก็ถือว่า เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย เพราะมี ไขมันโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่อิ่มตัวในปริมาณ ค่อนข้างสูง (จากการศึกษาพบว่าหาก กินไขมันประเภทนี้ในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในโลหิตได้ นอกจากนี้ไขมันโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่อิ่มตัว ยังมีส่วนป้องการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย)
ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพ ควรจะรับประทานให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย เพราะหากรับประทานน้อยเกินไปก็อาจจะ ขาดสารอาหาร หรือมากเกินไปก็อาจเกิดการสะสมในร่างกายส่งผลเกิดโทษมากกว่าประโยชน์
ขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร Men’s Health ฉบับเดือนมีนาคม 2556 / mhthailand