ใครมีเก็บไว้ถือว่าโชคดีมาก “เหรียญพญาครุฑ ปี 17” พกไว้ดีเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
หากใครที่คิดกำลังอยากจะหาเครื่องรางของขลังติดตัวไว้สักชิ้น “เหรียญพญาครุฑ ปี 17” บอกเลยว่า มีไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเองและคนรอบข้าง ในวันนี้เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยากจะมาแนะนำ และเป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่อดีตโบราณจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ สิ่งนั้นนั่นก็คือ
“เหรียญบาทพญาครุฑปี 17”
เชื่อกันว่า “พญาครุฑ” มีอำนาจในเรื่องของการป้องกันภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับต่างๆที่เรามองไม่เห็น จะช่วยปัดเป่าและเป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับตัวเรานั่นเอง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของยศฐาบรรดาศักดิ์ อาชีพการงาน การใช้ชีวิต และอื่นๆอีกมากมาย
ปล. มีคาถาบูชาพญาครุฑด้านล่าง
อำนาจพญาครุฑ
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พญาครุฑสัตว์กายสิทธิ์ ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายสิ่งเหล่านี้ได้ เรียกได้ว่ามีอายุยืนยาวเปรียบเสมือนกลายเป็นอมตะนั้นเอง ดังเรื่องลี้ลับที่หลายคนพยายามค้นคว้าและแสวงหาอำนาจ และได้มีพรานป่าคนหนึ่งได้ออกมาเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญบาทพญาครุฑนี้
1. เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
2. สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
3. เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
4. ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
5. เป็นเมตตามหานิยม
6. นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
7. ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
8. ป้องกันสัตว์ เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
เรื่องเล่าของ พรานสุข
บรรดาพรานป่าจะไม่นิยมแขวนพระเข้าป่า เพราะเชื่อว่า พระเครื่องมีคุณทางเมตตาหรือแคล้วคลาด หากแขวนพระเข้าป่าจะไม่ได้เจอสัตว์ป่าเลย จะแคล้วคลาดไปหมด ด้วยเหตุนั้น พรานป่าจึงไม่คล้องพระเข้าป่า
พรานสุขเล่าว่า…จะพกถุงพลาสติกใส ซึ่งข้างในบรรจุด้วยยาสูบขี้โย ใบตองอ่อนตากแห้ง เปลือกมะขามไว้บดผสมยาสูบ และมีสิ่งหนึ่งที่พรานสุขใช้เป็นเครื่องราง พกติดตัวเข้าป่าโดยเก็บไว้ในซองยาสูบของ
แก นั่นคือ…”เหรียญบาทพญาครุฑ” ลักษณะตามภาพประกอบเรื่อง เป็นเหรียญที่แกพกเข้าป่าเป็นประจำ
“แล้วลุงสุขใช้เป็นเครื่องรางยังไงครับ”
การเข้าป่าและพักค้างคืนในป่านั้น พรานลุงสุขบอกว่าเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ ตามคำเล่าขานของพรานป่าและคนตัดไม้ จากปากต่อปากของพรานป่าและคนตัดไม้ เล่าขานสืบต่อกันมาว่า หากจะนอนในป่า
ไม่ว่าบริเวณใดก็ตาม ให้ตอกตราครุฑ โดยตอกให้ด้านที่เป็นรอยครุฑติดไว้เหนือบริเวณที่เราจะนอน ตอกเสร็จแล้วเก็บเหรียญพกไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับพรานสุข ในค่ำคืนแห่งการเผชิญกับผีป่านางไม้
พรานสุขเอง ได้ขูดเปลือกโคนไม้ใหญ่ ขูดให้เรียบ แล้วตอกตราครุฑประทับติดไว้ เพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับตามคำพรานและคนตัดไม้บอก และก็ได้ผลเป็นที่ปรากฏ…จากเผชิญกับ “ผีป่า..นางไม้..”
“เหรียญบาทพญาครุฑ” จึงเป็นเครื่องรางที่ผู้เดินป่า พรานไพร คนตัดไม้ พกติดตัวเข้าป่าเพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับ…แค่เหรียญบาทตราครุฑเท่านั้น ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด
บทสรุป….กระผมเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหรียญบาทตราครุฑ ซึ่งผมขออนุญาตเรียกว่า “เหรียญบาทพญาครุฑ” ก็แล้วกัน เป็นการเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญ่ของ “พญาครุฑ” ซึ่งผู้เฒ่าท่าน
หนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า สมัยที่ท่านเคยตัดไม้และล่องไม้ไปตามแม่น้ำปิง ไม้บางท่อนไม่ยอมไหลไปตามกระแสน้ำ บางท่อนอยู่นิ่งลักษณะคล้ายการไหลทวนน้ำ ผู้เฒ่าท่านนี้ จึงเอา “เหรียญบาทตราครุฑ”
ตอกลงไปที่หัวไม้ท่อนนั้น ปรากฏว่า ไม้ท่อนนั้นพลิกตัวหมุนกลิ้งไปมาอย่างน่าแปลกประหลาด ก่อนจะไหลไปตามกระแสน้ำ เช่นเดียวกับหมอผีบางท่านหากตรวจพบว่า “ผีสัมภเวสี” เข้ามาสิงสู่ในเสาบ้าน
ทำให้คนในบ้านอยู่ไม่เป็นปกติสุข “หมอผี” ก็จะตอกเหรียญตราครุฑให้จมหายไปในเนื้อไม้ทั้งเหรียญ เป็นการสะกดภูตผีให้อยู่ในภพในภูมิ ไม่ให้ออกมารบกวนใคร…และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์
เหรียญบาทตราพญาครุฑ ในส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับจากแนวป่าดิบหรือจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันอยู่อีกมาก แล้วแต่นักนิยมป่าหรือท่านใด จะได้พบได้เจอ “เหรียญบาทตราพญาครุฑ” จึงนับว่า
เป็นวัตถุที่มีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองมากมายนัก
ควรมีติดตัวไว้ เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ของมงคลคู่กาย
เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : เรื่องเล่าจากสิ่งที่มองไม่เห็น